○ บทความโดย บารออ์ นิซาร ไรยาน
อาจารย์ด้านหะดีษ สาขาอุศูลุดดีน มหาวิทยาลัยอิสลาม กาซ่า


● ผู้รุกรานที่เหี้ยมโหด
เมืองต่างๆของโลกอิสลาม นอกจากมักกะฮ์และมาดีนะฮ์ ต่างก็มีการงดละหมาดวันศุกร์และละหมาดญามาอะฮ์หลายๆครั้ง บางทีมัสยิดอัลอักซออาจเป็นมัสยิดที่มีการละเมิดและขัดขวางการปฏิบัตศาสนกิจที่มัสยิดมากที่สุด ขณะตกอยู่ภายใต้อำนาจกองทัพครูเสดมีการงดละหมาด ประมาณ 90 ปี นับตั้งแต่ ฮ.ศ.492/ ค.ศ. 1098 พร้อมๆ กับการเข่นฆ่าอย่างกว้างขวาง

ในหนังสือ "อัลกามิล" อิบนุอะษีร ได้กล่าวถึงการสังหารหมู่ครั้งนี้ว่า "ฝรั่งได้เข่นฆ่าประชาชนที่มัสยิดอัลอักซอ มากกว่า 70,000 คน รวมถึงบรรดาอิหม่าม นักวิชาการ นักปฏิบัติศาสนกิจ ที่ละทิ้งบ้านเมืองเพื่อมาอาศัยอยู่ใกล้มัสยิดอันทรงเกียรติ"
เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับมัสยิดต่างๆ ในแอนดาลุสเซีย หลังจากคริสเตียนสเปนบุกเมืองใหญ่ๆ ในตอนต้นฮิจเราะฮ์ศตวรรษที่ 7 อับดุลลอฮ์ อินาน นักประวัติศาสตร์แอนดาลุสเซีย กล่าวไว้ใน หนังสือ ‘دولة الإسلام في الأندلس โดยการอ้างถึงข้อความในหนังสือ أخبار العصر في انقضاء دولة بني نصر ของผู้เขียนที่ไม่ระบุนาม บันทึกข้อมูลที่ได้เห็นในยุคนั้นว่า ชาวสเปนบิดพลิ้วข้อตกลงส่งมอบกรานาดาที่ว่า จะให้ความเคารพต่อเสรีภาพทางศาสนาของชาวมุสลิม แต่พวกเขากลับปิดมัสยิด ห้ามมุสลิมปฏิบัติศาสนกิจ และละเมิดต่อความเชื่อความศรัทธาของพวกเขา
ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในกรณีนี้ เป็นเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ คือการรุกรานของมองโกลต่อกรุงแบกแดด ที่นำโดยฮูลากู ข่าน ในปี ฮ.ศ.656/ ค.ศ.1258 หลังจากนั้น ก็เป็นเหตุการณ์พวกตาตาร์บุกดามัสกัสในปี ฮ.ศ. 803 / ค.ศ.1400 ภายใต้การนำของตัยมูร เลง ผู้นำอุซเบก (เสียชีวิต ฮ.ศ. 807 / ค.ศ.1404 ) ความโหดร้ายที่กระทำโดยชาวมองโกลเมื่อเข้าสู่กรุงแบกแดดนั้นเกินกว่าจะบรรยาย แต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับบทความนี้คือสิ่งที่อิบนุกะษีร กล่าวถึงในหนังสือ "อัลบิดายะฮ์ วัลนิฮายะฮ์"ว่า "บรรดาคอเต็บ และอิหม่าม รวมถึงครูสอนอัลกุรอานล้วนถูกฆ่า มัสยิดต่างๆ ในกรุงแบกแดดถูกปิด และงดละหมาดญามาอะฮ์และละหมาดวันศุกร์ เป็นเวลาหลายเดือน"
อิหม่ามอัลซุบกีย์ (เสียชีวิต ฮ.ศ.771/ค.ศ.1369 ) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว กล่าวในหนังสือ "ตอบะกอต อัชชาฟิอียะฮ์" ว่า "ฮูลากูเข้ายึดแบกแดด คอลีฟะฮ์ถูกฆ่ารวมถึงมุสลิมทั่วไป ได้ยินเสียงระฆังจากมัสยิด บรรดามัสยิด มีทั้งที่ถูกทำลายทิ้งและถูกปิด จากนั้นบ้านเมืองเหล่านั้นและผู้คนก็มลายหายไป ราวกับว่าพวกเขาเป็นความฝัน !!"
อิบนุคอลดูน (เสียชีวิต ฮ.ศ. 808/ค.ศ.1405 ) ได้กล่าวในหนังสือ "ตารีค-ประวัติศาสตร์" ว่าเมื่อผู้นำตาตาร์ มาห์มุด กอซาน ( เสียชีวิต ฮ.ศ. 703/ค.ศ. 1303 ) และกองทัพ เข้าสู่กรุงดามัสกัสและปล้นสดมป์บ้านเมือง พวกเขาบุกมัสยิดบนีอุมัยยะฮ์ และทำบาปทุกอย่างในมัสยิด โดยไม่มีเว้น ผู้พิพากษาและนักวิชาการศาสนาถูกดูถูกเหยียดหยาม ละหมาดญามาอะฮ์และละหมาดวันศุกร์ก็หยุดชะงัก! "
และนี่คือความจริงที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่กอซานนี้ เป็นชนชาวตาตาร์รุ่นที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามแล้ว !!
สำหรับการบุกรุกของดามัสกัสของตัยมูร เลง ก็โหดร้ายไม่แพ้กัน แม้เขาจะอ้างว่านับถือศาสนาอิสลามก็ตาม เขาเรียกค่าไถ่จากประชาชน เพื่อรับรองความปลอดภัยจากการเข่นฆ่าและการปล้น แต่เขาก็ละเมิดข้อตกลง และทำการปล้นและเผาทำลาย เหตุการณ์เหล่านั้นทำให้ผู้คนละเลยการสนใจต่อศาสนาและทางโลก บรรดามัสยิดทั้งหมดงดอะซานและงดละหมาด ดังที่อัลมักรีซีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ السلوك لمعرفة دول الملوك

alcazar