นั่นคือเหตุผลที่กล่าวกันว่า : ความแตกต่างของถ้อยคำบ่งบอกถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และเป็นพื้นฐานสำหรับหลัก "การฟัตวาตามเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของเวลา สถานที่และสถานการณ์"
ในปัจจุบัน เราทุกคน แม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีความรู้ขั้นสูง - ต่างรู้ว่ามนุษยชาติได้มาถึงช่วงเวลาทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง ซึ่งอัตราความผิดพลาดเกี่ยวกับการคำนวณทางดาราศาสตร์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์นั้นน้อยกว่าหนึ่งในล้านต่อวินาที ดังนั้นเราจึงเชื่อมั่นอย่างสูงยิ่งต่อวิทยาศาสตร์นี้ด้านนี้ เมื่อได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ อุกกาบาต ดวงอาทิตย์ ดวงดาว สภาพอากาศ เมฆ ความร้อน และพายุใหญ่ เรารับรู้และเชื่อมั่นในข้อมูลที่แม่นยำของวิทยาศาสตร์ด้านนี้แม้ในเรื่องระดับเวลาเสี้ยววินาที จากนั้นเมื่อระบุเกี่ยวกับข้อมูลการเกิดของเดือนฮิจเราะห์ ซึ่งเป็นข่าวจริงที่มีความถูกต้องเช่นเดียวกับข้อมูลที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น เรากลับปฏิเสธและไม่ยอมรับ ภายใต้การอ้างอิงหะดีษที่สามารถตีความทางวิชาการได้หลายแนว ดังที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้เล็กน้อย
การตีความทางวิชาการกล่าวว่า การเห็นจันทร์เสี้ยวอาจเกิดขึ้นด้วยวิธีคำนวณด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านนบี ศอลฯ แบ่งแยกระหว่าง 2 วิธี โดยกล่าวถึงทั้งสองว่า : " فاقدروا له " “ จงคำนวณ ” และ " أكملوا العدة “ จงทำให้สมบูรณ์”
ราวกับคำพูดของท่าน ที่ว่า " فاقدروا له " “ จงคำนวณ ” “ เป็นสัญญาณทางเทคโนโลยีจากท่านนบี ศอลฯ ผู้เป็นนายทางวิชาการทั้งมวล ผู้เรียกร้องสู่ศาสนาแห่งความรู้การพัฒนา ความก้าวหน้าและอารยธรรม
อบุลอับบาส อิบนุสุรัยจ์ หนึ่งในผู้นำในมัซฮับชาฟิอีย์กล่าวว่า “คนที่รู้การคำนวณและตำแหน่งของดวงจันทร์ ถ้าเขารู้จากการคำนวณว่าพรุ่งนี้เป็นเดือนรอมฎอน การถือศีลอดก็จำเป็นสำหรับเขา เพราะเขารู้การเริ่มต้นของเดือนด้วยหลักฐาน ดังนั้นจึงเปรียบได้ดังการรู้ด้วยพยาน"
เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน การที่อุลามาอ์มัซฮับชาฟิอีย์และมัซฮับอื่นๆ ทั้งในยุคก่อนและยุคหลัง ปฏิเสธวิชา "การดูดาวแบบโหราศาสตร์" มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิเสธการอ้างความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น การแสวงหาสิ่งปรารถนาและการอ้างว่ามีอำนาจ แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะปฏิเสธวิทยาศาสตร์และความรู้ที่อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ได้จริงและพัฒนาการทางเทคโนโลยี
เรายอมรับและชื่นชมกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีและเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เราพูดถึงก่อนหน้านี้ เช่นในเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ สมาร์ทโฟน กล้องถ่ายรูป เครื่องเสียง เครื่องจักรที่ให้บริการผู้คน หุ่นยนต์เครื่องบิน และคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ปฏิเสธการพัฒนาการนี้หากเกี่ยวข้องกับการพิจารณาถึงวินาทีที่เกิดจันทร์เสี้ยวของเดือนรอมฎอนและจันทร์เสี้ยวของทุกๆเดือนฮิจเราะห์
หมายถึง เราเชื่อและยอมรับว่ามนุษย์ได้ไปถึงดาวเคราะห์มากมาย และเรายังภาคภูมิใจในข่าวนี้เมื่อมันแพร่กระจาย และเราไม่เชื่อมนุษย์คนเดียวกันนี้ว่าสามารถกำหนดวินาทีการเกิดดวงจันทร์ของเดือนฮิจเราะห์ได้ !
ดังนั้นสิ่งที่ถูกปฏิเสธคือ โหราศาสตร์ เวทมนตร์คาถาอาคมและไสยศาสตร์ ไม่ใช่การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ไม่ขัดแย้งกับศาสนาอิสลามและการกำชับของท่านศาสดา ศอลฯ
ดังนั้น เราจึงกล่าวได้ว่า ดาราศาสตร์สมัยใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีและความรู้ที่แม่นยำในระดับวินาทีในการคำนวณการเคลื่อนไหวของดวงจันทร์ ดวงดาว และดาวเคราะห์ต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่เราเห็นด้วยตา และการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่แน่นอน ที่ใช้เป็นหลักฐานเพื่อทราบวินาทีที่จันทร์เสี้ยวเกิดในทุกๆเดือนฮิจเราะห์ เป็นศาสตร์ที่สอดคล้องกับข้อแนะนำของศาสดาที่กล่าวกับผู้เชี่ยวชาญว่า " فاقدروا له " “ จงคำนวณ ” “
การคำนวณตามกฎทางวิทยาศาสตร์เป็นวิธีการใหม่ที่มนุษยชาติเพิ่งค้นพบ คนสามารถบรรลุเป้าหมายที่แน่นอนที่ต้องการไปถึง .. กล่าวอีกนัยหนึ่งการคำนวณเหล่านี้เป็นวิธีการขั้นสูงมากกว่าการเห็นด้วยตาอันเป็นวิธีการเก่าก่อน และทั้งสองวิธีสามารถบรรลุเป้าหมายคือการทราบการเกิดของดวงจันทร์และการกำหนดช่วงเวลาของเดือนฮิจเราะห์
นัหฟิกฮ์และนักวิชาการหลายคนกล่าวว่า หะดีษของท่านนบี ศอลฯ ที่ว่า
صوموا لرؤيته وأفطروا لرؤيته، فإن غم عليكم فاقدروا له
“จงถือศีลอดเมื่อเห็นมัน(จันทร์เสี้ยว) และจงออกอีดเมื่อเห็นมัน แต่ถ้าหากมันไม่ปรากฏให้เห็นแก่พวกท่านก็จงคำนวณเพื่อสิ่งนั้น”
فإن غم عليكم فأكملوا عدة شعبان ثلاثين
"แต่ถ้าหากมันไม่ปรากฏให้เห็นแก่พวกท่าน ก็จงนับจำนวนเดือนชะบานให้ครบสามสิบวัน”
ได้กำหนดเป้าหมายและวิธีการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้น
○ เป้าหมายได้แก่ : ถือศีลอดเดือนรอมฎอนอย่างสมบูรณ์โดยไม่มีการขาด และรู้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของเดือน
○ วิธีการ : การมองด้วยตาโดยการมองไปบนท้องฟ้า เนื่องจากไม่มีวิธีอื่นในช่วงเวลานั้น และเป็นวิธีที่ไม่ยากลำบากสำหรับมุสลิมยุคแรก ซึ่งวิธีการนอกจากนี้ เช่น การคำนวณทางดาราศาสตร์ เป็นต้น จะทำให้เกิดปัญหาในยุคนั้นอย่างแน่นอนเพราะเป็นวิธีการที่ไม่สามารถใช้ได้ทุกคน ... เราทุกคนก็รู้หะดีษนบี ที่ว่า
” يسِّروا ولا تعسِّروا”.
“ จงทำให้เป็นเรื่องง่ายและอย่าทำให้ยาก”
หากมีวิธีการอื่นที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ดีกว่านี้ก็สามารถนำไปใช้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ขัดแย้งกับหลักกฎหมายอิสลาม
นี่เป็นกฎเกณฑ์ชีวิตประจำวันของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตในที่ทำงาน ที่บ้าน การซื้อการขาย การแต่งงาน การค้า การอุตสาหกรรม การทหาร หรือการเมือง
สำหรับประเด็นของเรา เรามีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่ละเมิดกฎเกณฑ์ของศาสนา หากทว่ายังเข้ากันได้ดี ดังเหตุผลเราได้นำเสนอข้างต้น ดังนั้น เราสามารถใช้การคำนวณทางดาราศาสตร์ดิจิทัลทางเทคโนโลยีเรา เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ท่านนบีต้องการ นั่นคือการกำหนดดวงจันทร์ใหม่ การเข้าและออกจากเดือนรอมฎอน ตลอดจนช่วงเวลาอื่นๆของเดือนฮิจเราะห์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเรารู้ว่านักฟิกฮ์บางส่วนเห็นว่า การยืนยันดวงจันทร์ใหม่เกิดขึ้นทันทีที่มีคนเห็นจันทร์เสี้ยวเพียงคนเดียว ในขณะรายงานของนักฟิกฮ์อื่น ๆ กล่าวว่า การยืนยันดวงจันทร์ใหม่เกิดขึ้นทันทีที่มีคนเห็นจันทร์เสี้ยวจำนวน 2 คน
ดังนั้น เราอาจใช้ทัศนะใดจากทั้งสองนี้ ซึ่งอาจผิดพลาดได้ แต่เรากลับปฏิเสธเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และความรู้ที่มีคนเห็นจันทร์เสี้ยวด้วยการมีส่วนร่วมของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญหลายพันคน ที่สามาถเห็นจันทร์เสี้ยวในวินาทีแรกของการเกิดโดยไม่มีข้อผิดพลาดหรือโกหก
เราไม่ได้ดูแคลนวิธีการแรกแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เราขอพูดว่า : ปัจจุบัน สิ่งต่าง ๆ ได้พัฒนาไปและวิธีการได้เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ขัดแย้งกับเป้าหมายของท่านนบี ศอลฯ
เราเป็นประชาชาติแห่งความรู้!
นักวิชาการร่วมสมัยคนหนึ่งกล่าวโดยมดเท็จว่า หะดีษที่เรากล่าวถึงในตอนต้นของบทความนี้ คือ
إنا أمة أمية، لا نكتب ولا نحسب
“ เราเป็นประชาชาติที่ไม่รู้หนังสือ เราเขียนไม่เป็นและคำนวณไม่เป็น”
ทำให้มุสลิมไม่สนใจและปฏิเสธการคำนวณ
เราขอบอกกับชีคคนนี้ว่า ถ้าคำพูดของท่านถูกต้อง การอ่านเขียนก็จะต้องถูกทิ้งไปเช่นกัน
ทำไมท่านจึงไม่ยอมรับการคำนวณ แต่ยอมรับการเขียนแต่เพียงอย่างเดียว ทั้งๆที่ทั้งสองนั้นอยู่ในหะดีษเดียวกัน ซ้ำยังอยู่ในบรรทัดเดียวกัน!
โอชีค! ดังที่เราได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ หะดีษดังกล่าวกำลังอธิบายสถานการณ์เฉพาะสำหรับชาวมุสลิมในช่วงเวลาหนึ่ง และไม่ได้หมายความว่าชาวมุสลิมยังคงเพิกเฉยโดยไม่เขียน ไม่มีความรู้ ไม่มีการคำนวณ ไม่มีการพัฒนาและไม่มีเทคโนโลยี ..
ท่านชีคครับ คอมพิวเตอร์ ที่ท่านเขียนคำพูดนี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยอาศัยการคำนวณ
ไมค์โครโฟนที่ท่านพูดคำพูดนี้ก็ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้โครงสร้างของเลขคณิต
กล้องที่คุณใช้ในการถ่ายภาพบอกคำพูดนี้ ก็สร้างขึ้นมาจากการคำนวณ!
แต่ท่านกลับมาบอกว่า การคำนวณเป็นสิ่งที่สังคมมุสลิมปฏิเสธ พร้อมกล่าวหาว่า เพราะเป็นชนชาติที่ไม่มีวิชาความรู้
โอชีค! จงรู้ไว้ว่าศาสดา ศอลฯ อธิบายถึงสภาพความเป็นจริงที่เฉพาะเจาะจงในหะดีษนี้ แต่ท่านก็เป็นคนเดียวกับที่ทำงานและมุ่งมั่นที่จะสอนให้ชาวมุสลิมรุ่นแรกเขียนเป็น สารที่ชัดเจนจากท่าน คือจะบอกว่า เมื่อพวกท่านเรียนรู้ที่จะเขียน ก็ให้พวกท่านเรียนรู้การคำนวณ และวิทยาการอื่นๆ ที่จะตามมาในภายหลังด้วยเช่นกัน!
นี่คือสิ่งที่ชาวมุสลิมทำในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาทำให้เป็นผู้นำสังคมโลกด้วยวิทยาศาสตร์ขั้นสูง
พวกเขาไม่เคยบอกว่า เราไม่ต้องเรียนรู้วิทยาศาสตร์ การเขียนและการคำนวณโดยอ้างหะดีษดังกล่าว !
เทคโนโลยีในปัจจุบันซึ่งกำหนดเวลาการเกิดของเดือนฮิจเราะห์อย่างละเอียดในระดับวินาที เป็นพัฒนาการตามธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ของชาวมุสลิม และเป็นวิวัฒนาการพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาคิดค้นขึ้นในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา
การเรียกร้องของชีคคนนี้เป็นการเรียกร้องสู่ความไม่รู้ เป็นการเรียกร้องของไส้ศึกเพื่อให้ชาวมุสลิมรั้งท้ายประเทศที่พัฒนา
ขอให้เราระวังบุคคลเช่นนี้ให้มาก
เราสรุปโดยขอเน้นว่า การคำนวณทางดาราศาสตร์ที่เราได้อธิบายไว้ในบทความนี้ไม่ขัดแย้ง - ตามมุมมองของเรา - กับซุนนะห์ของท่านศาสดา หากทว่ายังสอดคล้องโดยสมบูรณ์ ละยังบรรลุวัตถุประสงค์สูงสุดของท่านนบี ศอลฯ ที่ต้องการให้มุสลิมถือศีลอดและละศีลอดตรงกัน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เดียวกัน ที่ถือศีลอดและละศีลอดไม่ตรงกัน
ด้วยวิธีการดังกล่าว อย่างน้อยเราก็ประสบความสำเร็จในการบรรลุความเป็นหนึ่งเดียวในบางมิติในหมู่ชาวมุสลิม ตราบเท่าที่ยังไม่มีความสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน
บทความนี้เป็นข้อเขียนพื้นๆเกี่ยวกับปัญหาที่กว้างใหญ่ไพศาลประดุจมหามมุทร เป็นเสมือนคำเชิญให้ค้นคว้าเพิ่มเติมและเจาะลึกปัญหานี้โดยผู้เชี่ยวชาญและผู้มีอำนาจตัดสินใจ โดยมีจุดประสงค์เพื่อกำจัดความแตกแยกของชาวมุสลิมในส่วนเล็ก ๆ
อัลลอฮ์พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพคือผู้รู้ดีที่สุด